จากการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลจากคนเฒ่าคนแก่ของ นายวรวุฒิ ทองสี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ จนถึงปัจจุบันนี้ รวมความได้ว่า การทอผ้าเป็นความรู้ที่คิดค้นมากับบรรพบุรุษตั้งแต่ถูกกวาดต้อนมาจากนครหลวงพระบาง นครเวียงจันท์ประเทศลาวในสมัยกรุงธนบุรีตอนปลายและมายังประเทศไทย ต่อมาได้ถูกกวาดต้อนมาต่อต้านทัพพม่าและเป็นกองสอดแนม ณ ดินแดน อันที่ตั้งของอำเภอบ้านไร่ ที่บ้านทัพคล้าย คราวสงครามเก้าทัพ หลังจากรวมกลุ่มกันเป็นหลักแหล่ง จึงได้ทำอุปกรณ์การทอผ้าและกี่ขึ้นอย่างง่าย ๆ เพื่อทอผ้าไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยขอเมล็ดฝ้ายจากชนเผ่ากระเหรี่ยงซึ่งเป็นชนเผ่าดั่งเดิม ใช้เสื้อผ้าที่สวมใส่ติดตัวมาเป็นตัวอย่างในการฟื้นฟูฝีมือ จากอดีดถึงปัจจุบัน การทอผ้าได้ถูกถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกจากลูกสู่หลานมาหลายชั่วอายุคน ประมาณได้ว่า การทอผ้าของอำเภอบ้านไร่ มีมาแล้วกว่า ๒๐๐ ปี
อุปกรณ์และเครื่องมือในการทอผ้า
การทอผ้าที่จะกล่าวถึงเป็นวิธีการทอผ้าแบบพื้นบ้านของชุมชนอำเภอบ้านไร่ ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นภาษาที่ใช้เรียกชื่อวัสดุอุปกรณ์หรือเครื่องมือจะเป็นภาษาถิ่นทั้งสิ้น สำหรับการทอผ้าจะต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือดังต่อไปนี้
“อิ้ว” คือเครื่องมือแยกเมล็ดฝ้าย
“กง” หรือ “คันธนู” คือเครื่องมือดีดฝ้ายให้ฟูแตกตัวออกจากกัน
“หลา” คือเครื่องมือทำฝ้ายให้เป็นเส้นด้ายด้วยเหล็ก(เหล็กแหลม)
“เปีย” คืออุปกรณ์ม้วนด้ายจากหลาให้เป็นไจหรือให้เป็นกลุ่ม
“กวัก”คือเครื่องมือการกรอด้ายให้เป็นกลุ่มใหญ่เพื่อทำเป็นด้ายยืนและด้ายพุ่ง
เผี่ยน คือ เครื่องมือกรอด้ายใส่หลอดไม้ เพื่อใช้เป็นด้ายพุ่ง
เฝียมือ คือ เป็นอุปกรณ์สำหรับเดินด้ายเพื่อทำเป็นด้ายยืนหรือเครือหูก
“ฟืม” คือเครื่องตีเส้นด้ายเพื่อจัดให้ด้ายเข้าชิดกันเป็นเนื้อผ้าหรือเรียกว่า ตั่ม
“กี่” คือ อุปกรณ์ขึงด้ายยืนที่ผ่านการต่อด้ายเข้ากับฟืมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือที่ได้ สืบหูกแล้วเพื่อพร้อมที่จะทอเป็นผืน
“ตั่มหูก” (ตั่ม หมายถึงการทอผ้า)
.