ทัพคล้าย–ทุ่งนา–ภูจวง เป็นชุมชนที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มวัฒนธรรมไทครั่ง(ลาวครั่ง,ลาวเวียง,ลาวกา)
โดยเล่าสืบทอดต่อกันมาว่า แต่เดิมบรรพบุรุษของตนมีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ และได้อพยพมามายังประเทศไทยเมื่อครั้งเวียงจันทน์ถูกตีแตก ชาวทัพคล้ายจะเรียกตัวเองว่า ลาวเวียง จากการศึกษาได้สันนิษฐาน
ว่าช่วงเวลาในการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของชาวทัพคล้ายอยู่ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๗๒ โดยมีการตั้งบ้านเรือนครั้งแรกที่บริเวณลำห้วยกระเสียว (ไปทางทิศใต้ในปัจจุบัน) ในระยะแรกมีเพียง ๓ - ๔ ครัวเรือน ต่อมาเมื่อชุมชนขยายตัวจึงมีการตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรและมีการสร้างวัดในหมู่บ้านขึ้น ต่อมาเมื่อตั้งหมู่บ้านได้ประมาณ ๘๐ ปี (พ.ศ. ๒๔๕๑) ได้เกิดโรคฝีดาษระบาดขึ้นผู้คนล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ต้องนอนบนใบตอง ถ้านอนบนเสื่อหรือผ้าจะทำให้เนื้อติดผ้าออกมาและเป็นแผลเพิ่มขึ้นอีก
ชาวบ้านส่วนใหญ่ จึงพากันอพยพขึ้นทางเหนือตามลำห้วยไปตั้งชุมชนใหม่อยู่ห่างจากชุมชนเดิมประมาณ ๑ - ๒ กิโลเมตร และเรียกชุมชนใหม่นี้ว่า บ้านใหม่ และเรียกชุมชนเก่าว่า บ้านเก่า
สถานที่บ้านเก่านั้นต่อมาก็จัดให้ที่เผาศพ หรือเรียกว่า ป่าช้า จนทางวัดได้ก่อสร้างเมรุเสร็จจึงได้ทำพิธีล้างป่าช้า และใช้เมรุเป็นที่เผาศพมาจนถึงปัจจุบัน
การอพยพไปตั้งบ้านเรือนในบริเวณใหม่ตั้งอยู่บริเวณสองฝั่งของลำห้วยกระเสียว โดยทางฝั่งตะวันตก ของลำห้วยกระเสียวมีบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่นกว่าจึงเรียกว่า บ้านใหญ่ ส่วนบริเวณตะวันออกนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและที่ราบทำนาจึงเรียกว่า บ้านทุ่งนา แต่คนทั่วไปและทางราชการเรียกหมู่บ้านทั้งสองนี้ว่า บ้านทัพคล้าย
สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าคำเล่าลือของบรรพบุรุษเป็นจริง คือ
๑. เงินพดด้วง ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ที่ปู่ย่าตายายยังเก็บไว้เป็นมรดกมาจนถึงปัจจุบัน
๒. เงินฮาง ซึ่งเป็นเงินที่ประเทศลาวใช้อยู่ในขณะนั้น ที่ปูย่าตายายยังเก็บไว้เป็นมรดกสืบมา
๓. ร่องรอยของการตั้งค่ายทหาร จากการที่ชาวบ้านขุดพบดาบและของ้าว ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้รบในสมัยนั้น
๔. ภาษาถิ่นที่ใช้อยู่ ซึ่งเป็นภาษาลาวเวียงและภาษานี้มีพูดกันมากที่หลวงพระบางประเทศลาวในปัจจุบัน
๕. ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมบางอย่าง เช่น การแต่งกาย การทอผ้า ฯลฯ
๖. เพลงกล่อมเด็กที่ร้องสืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษที่ว่า อึ่งอ่าง ไปเวียงจันทน์ หาพ่อหาแม่ เฮา บ่ไปดอก ตากแดดก็กระด้าง ขางไฟก็ขิวควัน
และในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๖ ได้พบเตาโบราณ ( ติดกับลำห้วยกระเสียว ทางทิศใต้ ๑ กม. )
.